ข้อบังคับของชมรมครูบรรณารักษ์ห้องสมุดโรงเรียนมัธยมศึกษา

 

หมวดที่ 1
ข้อความทั่วไป

ข้อ 1. ชื่อชมรม ชมรมนี้มีชื่อว่า "ชมรมครูบรรณารักษ์ห้องสมุดโรงเรียนมัธยมศึกษา" มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "Secondary School
        Libraians Club" ชื่อย่อภาษาไทยว่า "ช.บม." ชื่อย่อภาษาอังกฤษว่า "SSCL"
ข้อ 2. เครื่องหมายของชมรม ชมรมนี้ใช้เครื่องหมายเป็นรูปวงกลมตรงกลางมีสัญญลักษณ์เป็นรูปหนังสือและคน มีข้อความว่า
         "ชมรมครูบรรณารักษ์ห้องสมุดโรงเรียนมัธยมศึกษา" อยู่ที่ขอบ
ข้อ 3. ที่ตั้งของชมรม ชมรมนี้ตั้งอยู่ที่หน่วยศึกษานิเทศก์ กรมสามัญศึกษา (ห้องสมุดกรมสามัญศึกษา พญาไท ซอยวิระยา ถนนศรีอยุธยา
         เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร.2461987)

หมวดที่ 2
วัตถุประสงค์

ข้อ 4. วัตถุประสงค์ของชมรม ชมรมมีวัตถุประสงค์ต่อไปนี้

4.1 เพื่อเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความรู้ทางวิชาการระหว่างสมาชิก
4.2 เพื่อร่วมมือแก้ปัญหาในการดำเนินงานห้องสมุดโรงเรียนมัธยมศึกษา
4.3 เพื่อส่งเสริมให้ห้องสมุดโรงเรียนมัธยมศึกษาเป็นแหล่งสนับสนุนการเรียนการสอนอย่างถูก วิธีและมีประสิทธิภาพ
4.4 เพื่อช่วยพัฒนาห้องสมุดโรงเรียนมัธยมศึกษาให้ได้มาตรฐาน
4.5 เพื่อประชาสัมพันธ์งานห้องสมุดโรงเรียนมัธยมศึกษา
4.6 เพื่อเป็นศูนย์กลางติดต่อและร่วมมือกับองค์การ ชมรมสมาคมที่มีวัตถุประสงค์คล้ายคลึงกัน ทั้งในและนอกประเทศ
4.7 เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกได้ศึกษา หรือดูงานห้องสมุด หรือศึกษาต่อทั้งในและนอกประเทศ
4.8 เพื่อส่งเสริมสถานภาพของครูบรรณารักษ์ห้องสมุดโรงเรียนมัธยมศึกษา

ข้อ 5. ชมรมนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

หมวดที่ 3
สมาชิก

ข้อ 6. ประเภทของสมาชิก สมาชิกของชมรมมี 3 ประเภท คือ

6.1 สมาชิกสามัญ ได้แก่ ครูบรรณารักษ์ ศึกษานิเทศก์ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในห้องสมุด
6.2 สมาชิกสมทบ ได้แก นิสิต นักศึกษาที่กำลังศึกษาวิชาบรรณารักษ์ศาสตร์ และผู้ที่สนใจ
6.3 สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ บุคคล นิติบุคคล องค์การ หรือหน่วยงานที่ทาง ชมรมเห็นสมควรเชิญมาเป็นสมาชิก
      โดยพิจารณาจากความสนใจและการสนับสนุนกิจการของห้องสมุด


ข้อ 7. การสมัครเป็นสมาชิก

7.1 สมาชิกสามัญและสมาชิกสมทบให้ยื่นใบสมัครตามแบบที่ชมรมกำหนดไว้ต่อนายทะเบียน โดย ผู้สมัครจะต้องกรอกใบสมัคร
      ตามแบบฟอร์มของชมรม และชำระค่าบำรุงเป็นเงินสดให้ เรียบร้อย จึงถือว่าบุคคลนั้นเป็นสมาชิกของชมรมโดยสมบูรณ์
7.2 สมาชิกกิตติมศักดิ์ให้คณะกรรมการบริหารของชมรมพิจารณาลงมติเชิญผู้มีคุณสมบัติ เหมาะสมเข้าเป็นสมาชิก

ข้อ 8. ค่าสมาชิก

8.1 สมาชิกสามัญและสมาชิกสมทบจะต้องชำระเงินค่าลงทะเบียน 10 บาท และค่าสมาชิกปีละ 20 บาท ค่าสมาชิกตลอดชีพ 200 บาท
8.2 อัตราค่าสมาชิกอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

ข้อ 9. สิทธิของสมาชิก สมาชิกมีสิทธิ์ดังนี้คือ


9.1 ได้รับประโยชน์จากชมรมโดยเท่าเทียมกันตามเงื่อนไขที่ชมรมได้กำหนดไว้
9.2 เสนอข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินงานของชมรมต่อคณะกรรมการบริหารของชมรม
9.3 ออกเสียงเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารของชมรม
9.4 สมัครเข้ารับการเลือกตั้งเป็นกรรมการบริหารของชมรม
9.5 ขอตรวจสอบเอกสาร บัญชี ทรัพย์สินของชมรมในกรณีมีข้อสงสัย โดยยื่นคำร้องต่อคณะ กรรมการบริหารของชมรม
9.6 ขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะกรรมการบริหารได้โดยมีสมาชิกลงนามรับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมด
9.7 ประดับเข็มเป็นเครื่องหมายของชมรมในโอกาสอันเหมาะสม สมาชิกสมทบมีสิทธิตามข้อ 9 ยกเว้นข้อ 9.3 และ 9.4
     ส่วนสมาชิกกิตติมศักดิ์มีสิทธิ์ตามข้อ 9 ยกเว้น ข้อ 9.3 9.4, 9.5 หรือ 9.6


ข้อ 10. หน้าที่ของสมาชิก สมาชิกของชมรมมีหน้าที่ดังนี้

10.1 ให้ความร่วมมือในการดำเนินงานและปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของชมรม
10.2 ต้องไม่กระทำการใด ๆ อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชมรม หรือกระทำการใด ๆ ในนาม ของชมรม        หรือแอบอ้างเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน
10.3 การกรทำการใด ๆ ในนามของชมรมต้องได้รับมอบหมายจากชมรมเป็นลายลักษณ์อักษร
10.4 การย้ายที่อยู่หรือเปลี่ยนแปลงสถานที่ทำงานต้องแจ้งให้นายทะเบียนทราบทุกครั้ง
10.5 ชักชวนบุคคลอื่นที่เห็นสมควรเข้าเป็นสมาชิกของชมรม

ข้อ 11. การขาดจากสมาชิกภาพ สมาชิกขาดจากสมาชิกภาพเมื่อ

11.1 ลาออกจากชมรม
11.2 ถึงแก่กรรม
11.3 ไม่ได้ชำระเงินค่าสมาชิกติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี


หมวดที่ 4
การบริหารของชมรม

ข้อ 12. คณะกรรมการบริหารของชมรม คณะกรรมการบริหารของชมรมประกอบด้วย คณะกรรมการที่ ปรึกษาและคณะกรรมการบริหาร

12.1 คณะกรรมการที่ปรึกษาของชมรมมีจำนวนตามที่สมาชิกเห็นสมควร
12.2 คณะกรรมการบริหารของชมรมประกอบด้วยศึกษานิเทศก์ และผู้แทนจากคณะอนุกรรมการ งานห้องสมุดกลุ่มโรงเรียนละ 3 คน
        เป็นผู้มีตำแหน่งในกลุ่มดังนี้ คือ ประธาน รองประธานและเลขานุการ มีจำนวนไม่น้อยกว่า 25 คน และให้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ดังนี้

12.2.1 ประธานชมรม 1 ตำแหน่ง
12.2.2 รองประธานชมรม 2 ตำแหน่ง
12.2.3 เลขานุการ 1 ตำแหน่ง
12.2.4 ผู้ช่วยเลขานุการ 1 ตำแหน่ง
12.2.5 เหรัญญิก 1 ตำแหน่ง
12.2.6 ผู้ช่วยเหรัญญิก 1 ตำแหน่ง
12.2.7 นายทะเบียน 1 ตำแหน่ง
12.2.8 ผู้ช่วยนายทะเบียน 2 ตำแหน่ง
12.2.9 ปฏิคม 1 ตำแหน่ง
12.2.10 ผู้ช่วยปฏิคม 2 ตำแหน่ง
12.2.11 ประชาสัมพันธ์ 1 ตำแหน่ง
12.2.12 ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์ 2 ตำแหน่ง
12.2.13 ประธานฝ่ายวิชาการ 1 ตำแหน่ง
12.2.14 ผู้ช่วยประธานฝ่ายวิชาการ 1 ตำแหน่ง
12.2.15 กรรมการฝ่ายวิชาการ 4 ตำแหน่ง (จำนวนนี้เปลี่ยนแปลงได้ตามจำนวนคณะกรรมการ)
12.2.16 ประธานฝ่ายกิจกรรม 1 ตำแหน่ง
12.2.17 ผู้ช่วยประธานฝ่ายกิจกรรม 1 ตำแหน่ง
12.2.18 กรรมการฝ่ายกิจกรรม 4 ตำแหน่ง(จำนวนนี้เปลี่ยนแปลงได้ตามจำนวนคณะกรรมการ)


ข้อ 13. การดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการบริหารของชมรม

13.1 สมาชิกในกลุ่มโรงเรียนเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการของคณะอนุกรรมการ        งานห้องสมุดเพื่อเป็นผู้แทนกลุ่มมาเป็นคณะกรรมการบริหารของชมรม
13.2 คณะกรรมการบริหารที่ทางกลุ่มเลือกมานี้จะออกเสียงเลือกกรรมการบริหารของชมรมตาม ตำแหน่งในข้อ 12.2
13.3 คณะกรรมการบริหารของชมรมนี้จะพิจารณาเชิญคณะกรรมการที่ปรึกษาและสมาชิก กิตติมศักดิ์
13.4 คณะกรรมการบริหารของชมรมจะอยู่ในตำแหน่งคราวละ 2 ปี (ปีงบประมาณ)

ข้อ 14. อำนาจและหน้าที่ คณะกรรมการบริหารของชมรมมีอำนาจและหน้าที่ดังนี้

14.1 ดำเนินกิจกรรมของชมรมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
14.2 ประชุมศึกษาและเกี่ยวกับการดำเนินงานของชมรมให้ก้าวหน้าอยู่เสมออย่างน้อย ปีละ 4 ครั้ง
14.3 ต้องรักษาทรัพย์สินและผลประโยชน์ของชมรม
14.4 ต้องรับผิดชอบแทนชมรมในการกระทำใด ๆ ที่นอกเหนือจากวัตถุประสงค์และข้อบังคับ ของชมรม
14.5 เรียกประชุมใหญ่สามัญและวิสามัญตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ
14.6 กำหนดระเบียบให้เป็นไปตามข้อบังคับของชมรม
14.7 แต่งตั้งสมาชิกเป็นคณะอนุกรรมการหรือผู้ช่วยเพื่อดำเนินงานอย่างใดอย่างหนึ่ง อันอยู่ใน        ขอบข่ายหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารได้ตามความจำเป็น
14.8 พิจารณาคำร้องขอต่าง ๆ ของสมาชิกและพิจารณาสั่งการตามที่เห็นสมควร
14.9 พิจารณาหรือเชิญบุคคลหรือนิติบุคคลเข้าเป็นสมาชิกของชมรม
14.10 พิจารณาและดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับสมาชิกภาพของสมาชิกตามที่กำหนดไว้ในข้อ 11

ข้อ 15. หน้าที่ของกรรมการบริหาร กรรมการบริหารแต่ละตำแหน่งมีหน้าที่ดังนี้

15.1 ประธาน มีหน้าที่รับผิดชอบควบคุมการบริหารกิจการของชมรมให้เป็นไปตามนโยบายของ        กรรมการบริหารและข้อบังคับของชมรม เป็นตัวแทนชมรมในการติดต่อการงานกับองค์กร หรือบุคคลภายนอก เป็นประธาน        การประชุมกรรมการบริหาร และการประชุมใหญ่ รวมทั้งมี อำนาจหน้าที่อื่น ๆ ตามที่ระบุไว้ในข้อบังคับ
15.2 รองประธาน มีหน้าที่เป็นผู้ช่วยประธาน ทำการแทนประธานเมื่อได้รับมอบหมาย หรือเมื่อ ประธานไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้
15.3 เลขานุการ มีหน้าที่ดำเนินการด้านธุรการและกิจการบริหารโดยทั่วไปของชมรม จัดทำและ        รักษาระเบียบวาระการประชุมและรายงานการประชุม
15.4 เหรัญญิก มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการเงินและทรัพย์สินของชมรม ทำบัญชี เก็บรักษา         เอกสารสำคัญเกี่ยวกับการเงินทำทะเบียนพัสดุต่าง ๆ
        และแถลงฐานะการเงินพร้อมหลักฐาน ต่อที่ประชุมทุกครั้ง
15.5 นายทะเบียน มีหน้าที่รับสมัคร จัดทำและรักษาทะเบียนสมาชิกให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ รวมทั้งการติดตามสมาชิกภาพของสมาชิก
15.6 ปฏิคม มีหน้าที่เกี่ยวกับการต้อนรับและอำนวยความสะดวกเมื่อมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของชมรม
15.7 ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่จัดและดำเนินงานเกี่ยวกับกิจกรรมสมาชิกสัมพันธ์ และงาน ประชาสัมพันธ์
15.8 กรรมการวิชาการ มีหน้าที่ผลิตและเผยแพร่สิ่งพิมพ์ของชมรม
15.9 กรรมการกิจกรรม มีหน้าที่จัดกิจกรรมทางวิชาการ ได้แก่ การจัดบรรยาย อภิปราย         รวมทั้งการฝึกอบรมทางวิชาการเป็นครั้งคราว

ข้อ 16. การสิ้นสุดสภาพของคณะกรรมการบริหาร

16.1 ถึงคราวออกตามวาระ
16.2 ลาออก
16.3 ขาดจากสมาชิกภาพ
16.4 ไม่มาประชุมคณะกรรมการบริหารโดยไม่แจ้งล่วงหน้าติดต่อกัน 3 ครั้ง หลังจากได้รับ ทราบวันนัดประชุมแล้ว


หมวดที่ 5
การประชุม

ข้อ 17. การประชุมของคณะกรรมการบริหาร

17.1 มีการประชุมปีละอย่างน้อย 4 ครั้ง กรรมการบริหารตั้งแต่ 6 คน ขึ้นไปอาจมีหนังสือถึง ประธาน
       หรือเลขานุการขอให้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารเมื่อมีเรื่องด่วนหรือสำคัญควรแก่การเรียกประชุมก่อนวาระปกติ
17.2 ต้องมีคณะกรรมการบริหารมาประชุมอย่างน้อยกึ่งหนึ่งจึงจะถือว่าครบองค์ประชุม


ข้อ 18. วิธีการประชุม


18.1 ให้ประธานชมรมเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการบริหารและการประชุมใหญ่ ถ้า  ประธานไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้รองประธานทำหน้าที่แทน ถ้ารองประธานไม่อาจทำหน้าที่ได้ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการบริาหรคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมเฉพาะ คราวนั้น ๆ
18.2 การลงมติใด ๆ สมาชิกหรือกรรมการมีสิทธิ์ออกเสียงคนละ 1 เสียง
18.3 ในการลงมติให้ถือเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ ถ้ามีเสียงเสมอกันให้ประธานเป็นผู้ชีขาด


ข้อ 19. การประชุมใหญ่สามัญประจำปี


19.1 ให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ปีละ 1 ครั้ง เพื่อแถลงกิจการของชมรมในรอบที่ผ่าน มา เสนอบัยชีรับ-จ่าย หนี้สิน ทรัพย์สิน และงบดุลย์ในที่ประชุมทราบ
19.2 จะต้องมีสมาชิกเข้าร่วมประชุมไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมด กรณีที่สมาชิกไม่ถึง 1 ใน 3 แต่มีสมาชิกไม่น้อยกว่า 50 คน ให้ถือว่ครบองค์ประชุม

หมวดที่ 6
การเงิน

ข้อ 20. รายได้ของชมรม รายได้ของชมรมประกอบด้วย

20.1 ค่าสมาชิก
20.2 รายได้ที่เกิดจากการจัดกิจกรรม
20.3 เงินและทรัพย์สินที่ชมรมได้รับบริจาคโดยไม่มรภาระผูกพันจะรับได้ต่อเมื่อคณะกรรมการ บริหารมีมติให้รับ
20.4 ดอกผลอันเกิดจากทรัพย์สินของชมรม
20.5 รายได้อื่น ๆ


ข้อ 21. การเก็บรักษาเงิน

21.1 เงินรายได้ของชมรมให้ฝากในนามของชมรมไว้ที่ธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่
21.2 เหรัญญิกมีอำนาจเก็บเงินสำรองจ่ายประจำได้ไม่เกิน 500 บาท

ข้อ 22. การใช้จ่ายเงินของชมรม

22.1 การใช้จ่ายเงินของชมรมจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหาร ผู้ที่มีอำนาจ สั่งจ่ายเงิน
คือประธานชมรมหรือเหรัญญิกหรือผู้ช่วยเหรัญญิก การเบิกจ่ายเงินในบัญชีของชมรม ประธานชมรมและเหรัญญิก
หรือผู้ช่วยเหรัญญิกเป็นผู้ลงนาม
22.2 ประธานชมรมและเหรัญญิกมีอำนาจสั่งจ่ายเงินของชมรมโดยลงนามร่วมกันเพื่อกิจการ อย่างใดอย่างหนึ่งได้ครั้งละ
ไม่เกิน 1,000 บาท ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารชมรม
22.3 การจ่ายเงินต้องมีหลักฐานเป็นเอกสาร โดยมีลายมือชื่อของประธานชมรมและเหรัญญิก

ข้อ 23. ให้เหรัญญิกมีหน้าที่รับ-จ่าย เก็บรักษาเงิน สมุดบัญชี เอกสารทรัพย์สินและการเบิกจ่ายเงินของ ชมรม
ตามที่คณะกรรมการบริหารของชมรมอนุมัติ หรือกำหนดแล้วแต่กรณีเหรัญญิกต้องเสนอบัญชีรับ-จ่ายของชมรมต่อที่
ประชุมคณะกรรมการบริหารของชมรมทุกครั้งที่มีการประชุม การรับ-จ่าย และมีลายมือชื่อเหรัญญิกเป็นผู้ลงนาม
และเหรัญญิกจะต้องเสนอบัญชีรับ-จ่ายของชมรมต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี


หมวดที่ 7
เบ็ดเตล็ด

ข้อ 24. การแก้ไขข้อบังคับของชมรม การแก้ไขข้อบังคับของชมรมจะกระทำได้โดยมติที่ประชุมใหญ่เท่านั้น ในการแก้ไขดังกล่าว
จะต้องลงมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของสมาชิกที่มาประชุมในคราวนั้น
ข้อ 25. การเลิกชมรม การเลิกชมรมจะกระทำได้เมื่อที่ประชุมใหญ่ลงมติ โดยมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยไม่ น้อยกว่า 3 ใน 4 ของสมาชิกที่มาประชุม
ข้อ 26. การสิ้นสภาพของชมรม เมื่อชมรมสิ้นสภาพลงให้คณะกรรมการบริหารของชมเป็นผู้พิจารณาว่า จะยกทรัพย์สินของชมรม
แต่ละองค์กรใดหรือนิติบุคคลใดที่บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับห้องสมุด
ข้อ 27. ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2530 เป็นต้นไป