1. สารภูมิแพ้แพร่ระบาด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้เกิดปรากฏการณ์
ประหลาดขึ้นทุก ๆ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ นั่นคือ ไอจาม เป็นภูมิแพ้ และหอบหืด กันง่ายขึ้น และบ่อยขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ จากการศึกษาที่ผ่านมา พบว่า วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปกับสภาพมลพิษในอากาศ เป็นสาเหตุสำคัญของอาการดังกล่าว อย่างไรก้ตาม มีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าภาวะโลกร้อนและมีระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ในอากาศมากขึ้น ทำให้พืชพันธุ์ต่าง ๆ ผลิใบเร็วกว่าเดิม ขณะเดียวกันปริมาณละอองเกสรที่ฟุ้งกระจายไปตามอากาศมากขึ้น ทำให้ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ เมื่อสูดละอองเหล่านี้
เข้าไปทำให้เกิดอาการกำเริบง่ายขึ้น
2. สัตว์อพยพไร้ที่อยู่ เนื่องจากปัญหาโลกร้อน เช่นกระรอก ตัวชิปมังก์ หนู หมีขั้วโลก ที่เดิมเคย
อาศัยอยู่ในแถบอาร์ติกขั้วโลกเหนือ แต่เนื่องจากธานน้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว พืชขั้วโลก
ที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งสามารถเริ่มกระบวนการสังเคราะห์แสงคืนชีพ
3. ทะเลสาปประมาณ 125 แห่งที่หายสาปสูญไปจากเขตอาร์ติก เพราะ "เพอร์มาฟรอส" ที่เป็นน้ำแข็งแข็งตัวอยู่ใต้ทะเลสาปละลาย ดังนั้นทะเลสาปจึง ซึมเข้าสู่พื้นดินข้างใต้ เหมือนดึงจุกปิดน้ำออกจากอ่างน้ำ น้ำจึงไหลออกจากอ่าง การที่น้ำแข็งใต้พื้นโลกระลาย ส่งผลให้ชั้นน้ำแข็งถาวรที่มีอยู่ผิวโลกค่อย ๆละลาย ผลทำให้จุดที่เคยเป็นน้ำแข็งละลายจนกลาบเป็นรูรั่วใต้ดิน เมื่อเป็นเช่นนี้ สภาพภูมิศาสตร์ที่เคยเป็นสิ่งปลูกสร้างที่อยู่เหนือจุดดังกล่าวจะได้รับความเสียหายตามไปด้วย น้ำแข็งละลายที่เกิดขึ้นบนที่เขาสูงยังก่อให้เกิดภัยธรรมชาติ ตามมาเช่น หินถล่ม และโคลนถล่ม
4. การเกิดไฟป่านักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ยืนยันตรงกันว่าโลกร้อนเป็นสาเหตุเนื่องจากสภาพป่าแห้งแล้งมากกว่าเดิม จึงเป็นเชื้อไฟ ประเทศทางตะวันตกเริ่มปรากฏเหตุไฟป่าบ่อยขึ้น นอกจากนี้การเกิดพายุ ยังก่อตัวบ่อยและรุนแรงกว่าในอดีตที่ผ่านมา
5. ภาวะโลกร้อนทำให้ฤดูหนาวสั้นลง และฤดูร้อนมาเร็วกว่าธรรมดา การแปลปรวนของสภาพอากาศ ทำให้นกอพยพหลายสายพันธุ์ ปรับตัว หรือปรับตามนาฬิกาชีวภาพไม่ทัน ทำให้สัตว์ที่เอาชีวิตรอดได้ต้องเป็นสายพันธุ์ที่แข็งแรงเท่านั้นถึงจะอยู้ได้ สัตว์ที่ต้องการอยู่รอด ต้องปรับพันธุกรรมใหม่ เพื่อให้ชีวิตอยู่รอดได้
6. จากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์จากโรงงานอุตสาหกรรม โรงไฟฟ้าถ่านหิน ยานพาหนะ
ส่งผลให้ดาวเทียมที่โคจรรอบโลกเคลื่อนที่เร็วกว่าเดิม ตามปกติอากาศในบรรยากาศชั้นนอกสุด
ของโลกจะเบาบางแต่โมเลกุลของอากาศจะยังคงมีแรงดึงดูด มากพอในการทำให้ดาวเทียมโคจรช้า ๆ ดังนั้น ต้องมีการควบคุมดาวเทียมให้โคจรต่อไปอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตามเมื่อคาร์บอนไดออกไซค์ลอยไปสะสมในบรรกาศชั้นล่างมากไปจะทำให้แรงดึงดูดของบรรกาศชั้นนอกสุดลดกำลังลง ดาวเทียมจึงโคจรเร็วกว่าปกติ
7. ภูเขากระเด้งตัวเหนือพื้นโลก ภูเขา และเทือกเขาสูงหลายแห่งทั่วโลกกำลังขยายตัวสูงขึ้น เพราะผล
จากโลกร้อน ทำให้น้ำแข็งที่ปกคลุมเทือกเขาสูง ทำหน้าที่เหมือนตุ้มน้ำหนักที่คอบกดทับฐานล่างของภูเขาทรุดต่ำลงไปใต้พื้นผิวน้ำแข็ง เมื่อน้ำแข็งละลายทำให้ส่วนของฐานล่างที่เคยถูกกดทับกระเด้งคืนตัวมาเหนือผิวโลกอีกครั้ง