ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เนื่องจากวงโคจรโลกรอบดวงอาทิตย์ อยู่วงใน ส่วนวงโคจรของดาวอังคารอยู่วงนอก ตามกฎของแรงดึงดูด โลกจึงเดินทางได้เร็วกว่า ใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ ครบ 1 รอบ 365 วัน ส่วนดาวอังคารต้องใช้เวลาเท่ากับ 687 วันเวลาโลก ทำให้ทุกๆ 26 เดือน โลกจะแซงดาวอังคารไปหนหนึ่ง ขณะที่โลกไล่ทันดาวอังคาร ระยะห่างระหว่างกันจะลดลงอย่างน่าตื่นเต้น ซึ่งเป็นโอกาสที่นักวิทยาศาสตร์จะส่งยานอวกาศสำหรับเดินทางไปยังดาวอังคาร เหมือนอย่างกับที่ส่งยานอวกาศ “ฟีนิกซ์แลนเดอร์” ไปเมื่อเร็วๆนี้ ขณะนี้ ดาวทั้งคู่มีระยะห่างกันหดสั้นลงในอัตราชั่วโมงละ 35,200 กม.ต่อ ชม.หรือเทียบกับเวลาอ่านหนังสือจบไปประโยคละ 40 กม.

เราจะได้เห็นดาวอังคารเป็นวัตถุที่สุกใสดวงหนึ่งบนท้องฟ้ายามกลางคืน ตั้งแต่ปลายเดือนนี้เป็นต้นไป และเมื่อมันเข้ามาอยู่ในระยะใกล้กันที่สุด ซึ่งจะตกอยู่ในราวเดือนธันวาคม ดาวอังคารจะส่งแสงสุกใสยิ่งกว่าดาวฤกษ์ดวงใดบนฟ้า.